Adjectives | ||||||||
Adjectives คือ คุณศัพท์ หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่ขยายนามหรือสรรพนาม (ขยายสรรพนามต้องอยู่หลังตลอดไป) เพื่อบอกให้รู้ลักษณะคุณภาพ หรือคุณสมบัติของนามหรือสรรพนามนั้นว่า เป็นอย่างไร ได้แก่คำว่า | ||||||||
good | ดี | |||||||
bad | เลว | |||||||
tall | สูง | |||||||
dirty | สกปรก | |||||||
wise | ฉลาด | |||||||
red | แดง | |||||||
fat | อ้วน | |||||||
thin | ผอม | |||||||
this | นี้ | |||||||
those | เหล่านั้น | |||||||
short | สั้น | |||||||
white | ขาว | |||||||
ชนิดของ Adjective | ||||||||
Adjective ในภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็น 11 ชนิด คือ | ||||||||
1. Descriptive Adjective คุณศัพท์บอกลักษณะ | ||||||||
2. Proper Adjective คุณศัพท์บอกสัญชาติ | ||||||||
3. Quantitative Adjective คุณศัพท์บอกปริมาณ | ||||||||
4. Numbearl Adjective คุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน | ||||||||
5. Demonstrative Adjective คุณศัพท์ชี้เฉพาะ | ||||||||
6. Interrogative Adjective คุณศัพท์บอกคำถาม | ||||||||
7. Possessive Adjective คุณศัพท์บอกเจ้าของ | ||||||||
8. Distributive Adjective คุณศัพท์แบ่งแยก | ||||||||
9. Emphaszing Adjective คุณศัพท์เน้นความ | ||||||||
10. Exclamatory Adjective คุณศัพท์บอกอุทาน | ||||||||
11. Relative Adjective คุณศัพท์สัมพันธ์ | ||||||||
1. Descriptive Adjective คือ "คำคุณศัพท์บอกลักษณะ" หมายถึง คำที่ใช้ลักษณะหรือคุณภาพของคนสัตว์ สิ่งของและสถานที่เพื่อให้รู้ว่า นามนั้นมีลักษณะอย่างไร ได้แก่คำว่า | ||||||||
good, bad, tall, shot, black, fat, thin, fat, thin, clever, foolish, poor, rich, brave, cowardly, pretty, agly, happy, sorry, etc. | ||||||||
ตัวอย่างเช่น : | ||||||||
The rich man lives in the big house. (คนรวยอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่) | ||||||||
A clever pupil can answer the difficult problem. (นักเรียนที่ฉลาดสามารถตอบปัญหายากได้) | ||||||||
The black cat cuagh a smail bird. (แมวดำตัวนั้นจับนกได้) | ||||||||
ข้อสังเกต : rich, big, clever, difficult, black และ small เป็นคุณศัพท์บอกลักษณะ | ||||||||
2. Proper Adjective คือ "คุณศัพท์บอกสัญชาติ" หมายถึง คำที่ไปขยายนามเพื่อบอกสัญชาติ ซึ่งอันที่จริงมีรูปเปลี่ยนมาจาก Proper noun นั่นเอง ได้แก่ | ||||||||
Proper Noun (เป็นนามเฉพาะ) | Proper Adjective (เป็นคุณศัพท์บอกสัญชาติ) | คำแปล | ||||||
England | English | อังกฤษ, คนอังกฤษ | ||||||
America | American | อเมริกา, คนอเมริกัน | ||||||
Thailand | Thai | ไทย, คนไทย | ||||||
India | Indian | อินเดีย, คนอินเดีย | ||||||
Germany | German | เยอรมัน, คนเยอรมัน | ||||||
Italy | Italian | อิตาลี, คนอิตาเลี่ยน | ||||||
Japan | Japanese | ญี่ปุ่น, คนญี่ปุ่น | ||||||
China | Chinese | จีน, คนจีน | ||||||
ตัวอย่างเช่น : | ||||||||
John employs a chinese cook. (จอห์นจ้างพ่อครัวชาวจีนคนหนึ่ง) | ||||||||
Do you learn French literature? (คุณเรียนวรรณคดีฝรั่งเศสหรือ) | ||||||||
The English language is used by every nation. (ภาษาอังกฤษใช้ในทุกประเทศ) | ||||||||
ข้อสังเกต : Chinese, French, English เป็นคำคุณศัพท์บอกสัญชาติ | ||||||||
3. Quantitive Adjective คือ "คำคุณศัพท์บอกปริมาณ" หมายถึง คำที่ไปขยายนาม เพื่อบอกให้ทราบปริมาณของสิ่งเหล่านั้นว่า มีมากหรือน้อย (แต่ไม่บอกจำนวนแน่นอน)ได้แก่ much, many, little, some, any, enough, half, great, all, whole, sufficent, etc. | ||||||||
He ate much rice at school yesterday. | ||||||||
(เขากินข้าวมากที่โรงเรียนเมื่อวานนี้) | ||||||||
Linda did not give any money to her younger brother. | ||||||||
(ลินดาไม่ได้ให้เงินแก่น้องชายของหล่อน) | ||||||||
Take great care of your health. | ||||||||
(เอาใจใส่ต่อสุขภาพของคุณให้มากหน่อย) | ||||||||
ข้อสังเกต : much, any, great ในประโยชน์ทั้ง 3 เป็นคำคุณศัพท์บอกปริมาณ | ||||||||
4. Numberal Adjective คือ "คำคุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน" หมายถึง คำที่ไปขยายนาม เมื่อบอกจำนวนแน่นอนของนามว่ามีเท่าไหร่ แบ่งเป็นชื่อย่อยได้ 3 ชนิด คือ | ||||||||
4.1 Cardinal Numberal Adjective คือ คุณศัพท์ที่ใช้บอกจำนวนนับที่แน่นอนของนาม ได้แก่ | ||||||||
one, two, three, four, five, six, seven, etc. | ||||||||
ตัวอย่างเช่น : | ||||||||
She gave me two apples and three organes. | ||||||||
(หล่อนให้แอปเปิ้ลสองผล และส้มสามผลแก่ฉัน) | ||||||||
Bill wants to buy seven pens. | ||||||||
(บิลต้องการซื้อปากกาเจ็ดด้าม) | ||||||||
ข้อสังเกต : two, three, seven เป็นคุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอนวางไว้หน้านาม | ||||||||
4.2 Ordinanal Numberal Adjective คือ "คำคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อบอกลำดับที่ของนามนั้นๆ ได้แก ่ | ||||||||
first, second, third, fifth, sixt, seventh, etc. | ||||||||
ตัวอย่างเช่น : | ||||||||
Tom is the first boy to be rewarded in this school. | ||||||||
(ทอมเป็นเด็กคนแรกที่ได้รับรางวัลในโรงเรียนนี้) | ||||||||
Sam won the third prize last month and the second one last week. | ||||||||
(แซมได้รับรางวัลที่ 3 เมื่อเดือนที่แล้ว และสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับรางวัลที่ 2) | ||||||||
I am the seventh son of my family. | ||||||||
(ฉันเป็นลูกคนที่ 7 ของครอบครัว) | ||||||||
ข้อสังเกต : first, third, second, seventh เป็นคุณศัพท์บอกลำดับที่วางไว้หน้านาม | ||||||||
4.3 Mutiplicative Adjective คือ "คุณศัพท์บอกจำนวนทวีของนาม" ได้แก่ double, triple, fourfold | ||||||||
ตัวอย่างเช่น : | ||||||||
Some roses are double. | ||||||||
(ดอกกุหลาบบางดอกก็มีกลีบ 2 ชั้น) | ||||||||
Buddha, Dhamma, and Sangha are triple gems. | ||||||||
(พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ คือแก้ว 3 ประการ) | ||||||||
ข้อสังเกต : double, triple, เป็นคำคุณศัพท์บอกจำนวนทวีของนาม | ||||||||
5. Demonstrative adjective คือ คุณศัพท์ชี้เฉพาะหรือนิยมคุณศัพท์หมายถึง คําที่ชี้เฉพาะให้กับนามใดนามหนึ่ง ได้แก่ this, that (ใช้กับนามเอกพจน์), these ,those (ใช้กับนามพหูพจน์) such, same | ||||||||
ตัวอย่างเช่น: | ||||||||
I invited that man to come in. | ||||||||
(ฉันได้เชิญผู้ชายคนนั้นให้เข้ามาข้างใน) | ||||||||
Jan hated such things because they made her ill. | ||||||||
(แจนเกลียดสิ่งเหล่านั้นเพราะมันทําให้เธอไม่สบาย) | ||||||||
They said the same thing two or three times. | ||||||||
(พวกเขาพูดถึงสิ่งเดียวกันนี้2หรือ3ครั้งแล้ว) | ||||||||
ข้อสังเกต: that,such,same เป็นคุณศัพท์ชี้เฉพาะวางไว้หน้านาม | ||||||||
6.interrogative adjective คือ คุณศัพท์บอกคําถามหมายถึง คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อให้เป็นคําถามโดยจะวางไว้ ต้นประโยคและมีนามตามหลังเสมอ ได้แก่ what, which, whose | ||||||||
ตัวอย่างเช่น: | ||||||||
What book is he reading in the room? | ||||||||
(เขากําลังอ่านหนังสืออะไรอยู่ในห้อง) | ||||||||
Which way shall we go? | ||||||||
(เราจะไปทางไหนกันนี่?) | ||||||||
Whose shoes are these? | ||||||||
(รองเท้านี้เป็นของใคร) | ||||||||
ข้อสังเกต: what,which,whose เป็นคุณศัพท์บอกคําถามอยู่หน้าประโยค | ||||||||
7. Possessive adjective คือ คุณศัพท์บอกเจ้าของหรือสามีคุณศัพท์ หมายถึง คําคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อบอกความเป็นเจ้าของของนาม ได้แก่ my,our,your,his,her,itsและtheir | ||||||||
ตัวอย่างเช่น : | ||||||||
This is my table. | ||||||||
(นี่คือโต๊ะของฉัน) | ||||||||
Her pen is on my desk. | ||||||||
(ปากกาของหล่อนอยู่บนโต๊ะฉัน) | ||||||||
Our nation needs solidarity. | ||||||||
(ชาติของเราต้องการความสามัคคี) | ||||||||
Their parents work hard every day. | ||||||||
(พ่อแม่ของพวกเขาทํางานหนักทุกวัน) | ||||||||
ข้อสังเกต : my, her, our, their เป็นคุณศัพท์บอกเจ้าของวางไว้หน้านาม | ||||||||
8. Distributive คือ คุณศัพท์แบ่งแยก หมายถึง คําคุณศัพท์ที่ไปขยายนาม เพื่อแยกนามออกจากกันเป็น อันหนึ่ง หรือส่วนหนึ่งได้แก่ each(แต่ละ), every(ทุกๆ), either(ไม่อันใดก็อันหนึ่ง), neither(ไม่ทั้งสอง) | ||||||||
ตัวอย่างเช่น : | ||||||||
The two men had each a gun. | ||||||||
(ชายสองคนนี้มีปืนคนละกระบอก) | ||||||||
Every soldier is punctually in his place. | ||||||||
(ทหารทุกคนเข้าประจําที่ของตัวตรงเวลาดี) | ||||||||
Either side is a narrow lane. | ||||||||
(ไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่งเป็นซอยแคบ) | ||||||||
Neither accusation is true. | ||||||||
(ข้อกล่าวหาทั้งสองข้อไม่เป็นความจริง) | ||||||||
ข้อสังเกต: each,every,either,neither เป็นคุณศัพท์แบ่งแยกมาขยายนาม | ||||||||
9. Emphasizing Adjective คือ คุณศัพท์เน้นความ หมายถึงคุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อเน้นความให้มีนำหนักขึ้น ได้แก่ own(เอง),very(ที่แปลว่า นั้น,นั้นเอง,นั้นจริงๆ) | ||||||||
ตัวอย่างเช่น: | ||||||||
Linda said that she had seen it with her own eyes. | ||||||||
(ลินดาพูดว่าหล่อนได้เห็นมันมากับตาเธอเอง) | ||||||||
He is the very man who stole my wrist watch last night. | ||||||||
(เขาคือชายคนนั้นผู้ซึ่งได้ขโมยนาฬิกาข้อมือของฉันไปเมื่อคืนนี้) | ||||||||
Jean is my own girl-friend. | ||||||||
(จีนคือแฟนผมเอง) | ||||||||
ข้อสังเกต : own,very เป็นคุณศัพท์เน้นความขยายนามที่ตามหลังให้มีนําหนักขึ้น | ||||||||
10. Exclamatory Adjective คือ คุณศัพท์บอกอุทาน หมายถึง คุณศัพท์ที่ใช้ขยายเพื่อให้เป็นคําอุทาน ได้แก่ what | ||||||||
ตัวอย่างเช่น: | ||||||||
What a man he is! | ||||||||
(เขาเป็นผู้ชายอะไรนะเนี่ย!) | ||||||||
What an idea it is! | ||||||||
(มันเป็นความคิดอะไรกันหนอ!) | ||||||||
What a piece of work he does! | ||||||||
(เขาทํางานได้เยี่ยมจริงๆ!) | ||||||||
ข้อสังเกต : what ทั้ง 3 คํา ในประโยคเหล่านี้เป็นคุณศัพท์บอกอุทาน | ||||||||
11. Relative Adjective คือ คุณศัพท์สัมพันธ์ หมายถึง คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามที่ตามหลังและในขณะเดียวกันก็ยังทําหน้าที่คล้ายส้นธาน | ||||||||
เชื่อมความในประโยคของตัวเองกับประโยคข้างหน้าให้สัมพันธ์กันอีกด้วย ได้แก่ | ||||||||
what(อะไรก็ได้),whichever(อันไหนก็ได้) | ||||||||
ตัวอย่างเช่น: | ||||||||
Give me what money you have. | ||||||||
(จงให้เงินเท่าที่คุณมีอยู่แก่ฉัน) | ||||||||
I will take whichever horse you don t want. | ||||||||
(ฉันจะนําเอาม้าตัวที่คุณไม่ต้องการ) | ||||||||
He will read what book he wishes. | ||||||||
[ แซมจะอ่านหนังสืออะไรก็ได้ที่เขาปราถนา (จะอ่าน) ] | ||||||||
ข้อสังเกต : What, Whichever เป็นคุณศัพท์สัมพันธ์ ไปขยายนามที่ตามหลัง และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้าและประโยคหลังให้กลมกลืนกันอีกด้วย | ||||||||
Adjective เวลานำไปพูดหรือเขียนมีวิธีใช้อยู่ 4 อย่างคือ | ||||||||
1. เรียงไว้หน้าคำนามที่คุณศัพท์นั้นไปขยายโดยตรงได้ เช่น | ||||||||
* The thin man can run very quickly. | ||||||||
(คนผอมสามารถวิ่งได้เร็วมาก) | ||||||||
* A wise boy is able to answer a difficult problem. | ||||||||
(เด็กฉลาดสามารถตอบปัญหาที่ยากได้) | ||||||||
* The beautiful girl is wanted by a young boy. | ||||||||
(สาวสวยย่อมเป็นที่หมายตาของเด็กหนุ่ม) | ||||||||
ข้อสังเกต : thin , wise , difficult , beautiful ,young เป็น คุณศัพท์เรียงขยายไว้หน้านามโดยตรง | ||||||||
2. เรียงไว้หลัง Verb to be, look feel,seem,get,taste,smell, | ||||||||
turn,go,appear,keep,become,sound,grow,etc. ก็ได้ Adjective | ||||||||
ที่เรียงตามกริยาเหล่านี้ ถือว่าขยายประธาน แต่วางตามหลังกริยา | ||||||||
เพราะฉะนั้นจึงมีชื่อเรียกได้อีกอย่างหนึงว่า Subjective Complement เช่น | ||||||||
* I'm feeling a bit hungry. | ||||||||
(ฉันรู้สึกหิวนิดๆ) | ||||||||
* Sugar tastes sweet. | ||||||||
(น้ำตาลมีรสหวาน) | ||||||||
ข้อสังเกต: hungry และ sweet เป็น Adjective เรียงไว้หลัง | ||||||||
กริยา feeling และ tastes ทั้งนั้น | ||||||||
3. เรียงคำนามที่ไปทำหน้าที่เป็นกรรม (Object) ได้ ทั้งนี้เพื่อ | ||||||||
ช่วยขยายเนื้อความของกรรมนั้นให้สมบรูณ์ขึ้น Adjiective ที่ใช้ใน | ||||||||
ลักษณะเช่นนี้เรียกว่าเป็น Objiective Complement เช่น | ||||||||
* Sam made his wife happy. | ||||||||
(แซมทำภรรยาของเขาให้มีความสุข) | ||||||||
* I consider that man mad. | ||||||||
(ฉันพิจารนาดูแล้วว่า ชายคนนั้นเป็นบ้า) | ||||||||
*This matter made me foolish. | ||||||||
(เรื่องนี้ทำให้ฉันโกรธไปได้) | ||||||||
ข้อสังเกต: happy,mad และ foolish เป็น Adjective ให้เรียง | ||||||||
หลังนาม และสรรพนามที่เป็น Object คือ wife,man,me | ||||||||
4. เรียง Adjective ไว้หลังคำนามได้ ไม่ว่านามนั้นจะทำหน้าที่เป็นอะไรก็ตาม ถ้า Adjective ตัวนั้นมี | ||||||||
บุพบทวลี (Perpositional Phrase)มาขยายนามตามหลัง เช่น | ||||||||
* A parcel posted by mail today will reach him tomorrow. | ||||||||
(พัสดุที่ส่งทางไปรษณีย์วันนี้จะถึงเขาวันพรุ่งนี้) | ||||||||
ข้อสังเกต: posted เป็น Adjective เรียงตามหลังนาม parcal ได้เพราะมีบุพบทวลี by mail today มาขยายตามหลัง | ||||||||
* I have known the manager suitable for his position. | ||||||||
(ฉันได้รู้จักผู้จัดการซึ่งก็มีความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งของเขา) | ||||||||
ข้อสังเกต: suitable เป็นคุณศัพท์ เรียงไว้หลังนาม manager ได้เพราะมีบุพบท วลี for his position มาขยายตามหลัง | ||||||||
* ข้อยกเว้น ในการใช้ Adjecive บางตัวเมื่อไปขยายนาม | ||||||||
การใช้ Adjecive ไปขยายนามหรือประกอบนามตามแบบตั้งแต่ ข้อ 1 ถึง 4 นั้น หมายถึง Adjecive ทั่วไปเท่านั้น แต่ถ้าเป็นAdjective ที่จะกล่าวต่อไปนี้แล้วให้มีวิธีใช้ขยายนามหรือประกอบนาม ได้เพียงข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้น คือ ประกอบหน้านาม หรือเรียงหลังกริยา จะใช้ทั้ง 2 อย่างไม่ได้ นั้นคือ | ||||||||
Adjective - Equivalent | ||||||||
คือ "คำที่ใช้เสมือนเป็นคุณศัพท์" ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่า คำที่จะนำมาใช้เสมือนหนึ่ง | ||||||||
เป็นคุณศัพท์ที่จะกล่าวต่อไปนี้ | ||||||||
1. คำนาม (Noun) นำมาใช้เป็น Adjective ขยายนามด้วยกันได้ แต่ให้วางไว้หน้านามที่มันไปขยายนั้นทุกครั้งไป เช่น | ||||||||
Yale University is the place for political studies. | ||||||||
(มหาวิทยาลัยเยลเป็นสถานที่สำหรับการศึกษาวิชาการเมือง) | ||||||||
ข้อสังเกต : Yale เป็นนามนำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยาย university ซึ่งเป็นนามด้วยกัน | ||||||||
My younger brother wishes to study at Suan Dusit College. | ||||||||
(น้องชายของฉันประสงค์จะเรียนที่วิทยาลัยสวนดุสิต) | ||||||||
ข้อสังเกต : Suan Dusit เป็นนาม แต่นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนาม college ได้ | ||||||||
They have worked in New York City for two years. | ||||||||
(พวกเขาได้ทำงานอยู่ที่เมืองนิวยอร์คเป็นเวลา 2 ปีแล้ว) | ||||||||
ข้อสังเกต : New York เป็นนามนำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนามที่ตามหลัง คือ City | ||||||||
2. คำนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ โดยมี Apostrophe ( 's ) มาใช้ควบนั้น นำมาใช้เป็น Adjective | ||||||||
ขยายนามได้ และให้เรียงไว้หน้านามตัวนั้นตลอดไป เช่น | ||||||||
John's house was built in Denver five years ago. | ||||||||
(บ้านของจอห์นได้สร้างไว้ที่เดนเวอร์ เมื่อ 5 ปีมาแล้ว) | ||||||||
ข้อสังเกต : เป็นคำนามที่นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนาม house ได้ | ||||||||
The teacher's table is larger than the students. | ||||||||
(โต๊ะของครูมีขนาดใหญ่) | ||||||||
ข้อสังเกต : teacher's เป็นนาม นำมาใช้บยายนาม table ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ได้ | ||||||||
3. Infinitive (กริยาสภาวมาลา ได้แก่ to + V.1) นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนามหรือสรรพนามได้ แต่วางไว้หลังนามที่มันขยายเสมอ เช่น | ||||||||
He has no money to give me for buying a pen. | ||||||||
(เขาไม่มีเงินที่จะให้ฉันซื้อปากกา) | ||||||||
ข้อสังเกต : to give เป็น Infinitive นำมาใช้เป็น Adjective ขยายนาม money ได้ | ||||||||
This book is good for you to read. | ||||||||
(หนังสือเล่มนี้ดีสำหรับคุณที่จะอ่าน) | ||||||||
ข้อสังเกต : to read เป็น Infinitive นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายสรรพนาม you ได้ | ||||||||
4. Participle นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนามได้ และให้วางไว้หน้านามที่มันไปขยายทุกครั้ง เช่น | ||||||||
The standing boy is afraid of the running dog. | ||||||||
(เด็กชายที่ยืนอยู่กลัวสุนัขที่วิ่งมา) | ||||||||
ข้อสังเกต : standing, running เป็น Participle นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนามได้ | ||||||||
5. Gerund (กริยานาม คือ Verb เติม ing แล้วนำมาใช้อย่างนามซึ่งจะได้กล่าวในบทต่อไปนี้เช่นกัน) นำมาใช้เป็น Adjective ขยายนามได้และวางไว้หน้านามนั้นตลอดไป เช่น | ||||||||
Now he is waiting for you in the meeting room. | ||||||||
(เดี๋ยวนี้เขากำลังรอคุณอยู่ที่ห้องประชุม) | ||||||||
ข้อสังเกต : meeting เป็น gerund นำมาใช้ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายนาม room | ||||||||
6. Phrase (วลีทุกชนิด) นำมาใช้เป็น Adjective ขยายนามหรือสรรพนามได้ ส่วนตำแหน่งวางของวลีคุณศัพท์นั้นอยู่หน้านามก็มี อยู่หลังนามก็มี เช่น | ||||||||
The man in this room is our guest. | ||||||||
(ผู้ชายที่อยู่ในห้องนี้เป็ฯแขกของเรา) | ||||||||
ข้อสังเกต : in this room เป็นวลีมาทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์มาขยายนาม man ที่อยู่ข้างหน้า | ||||||||
He wants to buy the corner. | ||||||||
(เขาต้องการซื้อบ้านที่อยู่มุมถนนนั้น) | ||||||||
ข้อสังเกต : on the corner เป็นวลีมาทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายนาม house ที่อยู่ข้างหน้า | ||||||||
7. Subordinate Clause (อนุประโยค) นำมาใช้เป็น Adjective ขยายนามได้ และให้วางไว้หลังนามที่ไปขยายทุกครั้ง เช่น | ||||||||
This is the house that Jack built. | ||||||||
(นี้คือบ้านที่แจ๊คสร้างเอาไว้) | ||||||||
ข้อสังเกต : that Jack built เป็น Subordinate Clause (ประเภทคุณานุประโยค) มาทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายนามhouse ที่วางอยู่ข้างหน้า | ||||||||
I know Mr. Clinton whom you want to see. | ||||||||
(ฉันรู้จัก มิสเตอร์คลินตัน ผู้ซึ่งคุณต้องการพบ) | ||||||||
ข้อสังเกต : whom you want to see เป็น Subordinate Clause (ประเภทคุณานุประโยค) มาทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายนามMr.Clinton ซึ่งวางอยู่ข้างหน้า ที่มา : http://learnenglish.nabia10.com/gramma/th/adjectives.html http://ict.moph.go.th/English/content/adj02_position.htm http://tc.mengrai.ac.th/jareeya/adjectives.htm |
วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Adjectives
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น